top of page

อยากจะบิน

เมื่อหลายวันก่อนเราเห็นรีวิวนิตยสารที่หน้าปกเป็นรูปผู้หญิงเปลือยนั่งหันหลังกอดตัวเองพร้อมกับมือที่สาม การรีวิวนั้นบอกถึงเนื้อหาภายในเล่มไว้อย่างคร่าวๆว่าเกี่ยวข้องกับ'การบำบัด'ควรไปหาซื้อมาอ่านกันนะ ประมาณนี้... แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมาก ทราบมาเพียงแค่ว่านิตยสารก็มีขายอยู่ทั่วไปตามร้านหนังสือนั้นแหละ จนจิตใจของเรามันทรุดลง และกลับไปเป็นแบบเดิมๆ เราเป็นคนที่ค่อนข้างจะเครียดได้ง่ายและมักจะเครียดอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องการเรียนและความฝัน(หรืออีกแบบที่เรานิยามให้มันก็คือการได้ทำตามใจและเดินตามเสียงของตัวเอง) ก็ตามที่เคยบอกเล่าไปในบล็อกก่อนหน้านี้ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เดินแยกมาอีกทางที่มันไม่ใช่ทางที่เราต้องการจะเดินเลย ดังนั้นมันถึงส่งผลให้เราเครียดอยู่บ่อยๆ(ด้วยเกณฑ์ของการเรียนที่เราต้องก้มหน้าก้มตาจำเอาความรู้ที่ไม่ได้อยากได้ใส่สมอง) ตอนที่เรากังวลกับมันพฤติกรรมของเราคือจะทานเยอะขึ้น นอนไม่หลับและจะมีอาการขี้เกียจ ซึ่งมันทำให้เราเกิดความคิดลบๆขึ้นมาเต็มสมองและจิตใจไปหมด มันเหมือนกับว่ามีอะไรหนักๆมาถ่วงขาไว้ไม่ให้เราบินออกไปจากพื้นดินนี้ได้เลย เราตั้งเป้าหมายไว้ในทุกๆวันทุกๆเย็นหลังจากหมดตารางเรียนว่าเราจะทำอะไรบ้าเพื่อเป็นการพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ แต่ด้วยจากอาการเล่านั้นในทุกๆวันเราไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายใดๆได้เลย แม้แต่ข้อเดียวก็ไม่ได้ มันทำให้เราผิดหวังกับตัวเองมากกว่าเดิม เราได้แต่เก็บความผิดหวังนั้นไว้กับตัว จนเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา เรานอนไม่หลับจนถึงตี3 และตื่นมาพร้อมกับความคิดที่ว่า วันนี้ไม่อยากไปเรียนเลย เราอยากอยู่คนเดียว อยากทบทวนตัวเอง อยากทำตามใจตัวเองและ.. เราอยากหนี หนีจากความเป็นจริงที่ว่าเรามัน'ห่วยแตก'

แต่เพราะยังไงหน้าที่ก็ต้องมาก่อน เราไม่อยากปล่อยให้ตัวเองย่ำแย่ไปมากกว่านี้ เลยลุกไปอาบน้ำแต่งตัวและเดินไปเรียน มันเหมือนจะปกติแต่วันนั้นเราเข้าเรียนสายไป 1 ชม. เราอาบน้ำช้า แต่งตัวช้า และเดินช้าๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะเราต้องการจะตามใจตัวเอง เราแค่ไม่อยากรีบร้อนเพราะเราเป็นคนที่เอื่อยเฉื่อย ทุกๆอย่างต้องการ'เวลา' จนตอนนั่งเรียนอยู่เราก็นึกถึงนิตรสารเล่มนั้นขึ้นมาได้ และต้องการจะซื้อมัน วันศุกร์เราจึงตัดสินใจไปตามหามันและพบว่าหมดสต็อคทุกร้านเลย(แหงล่ะ มันเป็นฉบับของเดือนกุมภาพันธ์นี่หน่า =_=) เลยกลับมาเรียนต่อและกดสั่งจากเว็บเอาแทน

หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงการบำบัดในหลายๆวิธีไว้ ซึ่งก็ช่วยทำให้เราเข้าใจเรื่องการบำบัดมากขึ้นจริงๆและที่สำคัญเลยก็คือมันทำให้เราได้คำตอบสำหรับคำถามที่มีอยู่ว่า "ทำไมตัวเราถึงได้อยากจะบินหนักหนา?"

เราต้องการอิสระ เราต้องการทำตามความฝันของตัวเองแต่เราก็ทำไม่ได้แม้แต่จะเลือกทางเดินเพื่อให้ไปถึงมัน.. เราคิดว่าถ้าหากทำความฝันให้สำเร็จได้ เมื่อนั้นก็จะมีอิสระและชีวิตจะเป็นไปในแบบที่เราต้องการจริงๆ แต่เราก็ต้องการเวลาที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้เดินเข้าใกล้ฝันนี้ให้มากขึ้น และอย่างที่บอกไป เราเดินอยู่บนทางที่เราไม่ได้เลือก เรารู้สึกว่าเส้นทางนี้มันยากลำบากและหนักหนาจิตใจอยู่มาก มันมีทั้งหลุมที่ลึก มีทั้งหลุมที่ตื้น มีก้อนหินใหญ่ที่ฝั่งตัวอยู่บนพื้น มีก้อนหินแหลมๆ ซึ่งกระจายตัวกันอยู่ตามเส้นทางนี้เต็มไปหมด เราเสียเวลาไปกับพวกมันมาก ดังนั้นเราเลยอยากจะกางปีกออกและอยากจะบินไป เพื่อที่จะได้ถึงเป้าหมายให้เร็วๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องถูกทิ่มแทงและเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตะกายขึ้นมาจากหลุมบ่อเหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่การที่จะบินได้เราก็ต้องหาที่ๆมีความสูงมากพอสำหรับการกางปีกออกและที่สำคัญคือเราต้องกล้าเสี่ยง.. อนึ่ง หลุมบ่อและก้อนหินนั้นก็เปรียบเสมือนกับอุปสรรคและข้อผิดพลาดในการดำเนินชีวิตของคนเรา ใครๆก็อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่มีใครต้องการจะให้เกิดความผิดพลาดในการใช้ชีวิต 1 ชีวิตนี้หรอกจริงไหม?? ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วก็มาลองเสี่ยงดูเถอะ ลองเดินขึ้นไปบนภูเขา หรือปีนขึ้นต้นไม้ที่สูงสักราวๆ20เมตร กระโดดออกมาสยายปีกแล้วกระพือมันให้สุดแรงดูนะ ตอนแรกมันก็จะเหนื่อยหน่อยล่ะ แต่เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้น เพราะขึ้นชื่อว่าความฝันแล้วการที่จะเปลี่ยนให้มันเป็นความจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทว่าก็ไม่ยากเกินพลังของเราหรอก ขอแค่เชื่อและมั่นใจในตัวเอง ในปีกนั้นและในความฝันเข้าไว้ สู้ๆนะทุกๆคนและโดยเฉพาะตัวฉันเอง : )

"So far away ถ้าหากฉันมีความฝัน เพียงแค่ความฝันที่อิสระ

Don't fall away ถ้าหากฉันมีความฝัน แค่ความฝันที่จะโบยบินไปได้"

- So far away

Produced by Agust D, Slow Rabbit

ณิวณัชฯ 21:48 182403

bottom of page