top of page

Who am I?

Who am I? ฉันเป็นใคร.. ฉันรู้ว่าคำถามนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในความคิดบ่อยๆหรอก ฉันไม่ได้สมองเสื่อม ไม่ได้เป็นโรคแล้วทำไมถึงยังเกิดคำถามนี้ขึ้นมาอยู่ในหัวบ่อยๆด้วย? ตอนนี้ฉันก็ชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้วล่ะ

หลายวันมานี้ก็เหนื่อยใจอยู่หลายเรื่อง ในหัวมีแต่เรื่องที่คิดไม่ตกอยู่ตลอด ระหว่างนี้ก็ได้ลองกลับมาแต่งนิยายอีกครั้งหลังจากที่บอกลากับมันไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ฉันรู้ดีว่าการแต่งนิยายเรื่องยาว เรื่องสัั้น หรือแม้แต่บทความนั้นก็ไม่เหมาะกับฉันทั้งสิ้น เพราะงานที่ออกมาแล้วไม่มีคนเสพมันก็กลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าได้ภายในชั่วพริบตาเดียว.. ใช่ ฉันรู้ ว่าฉันคงจะหวังผลตอบรับจากมันมากเกินไป แต่ความหวังฉันก็ไม่ได้หมดสิ้นหรอก จะไม่ล้มเลิกไปกลางทางแบบครั้งก่อนนั้นอีกแล้วล่ะ ไม่มีใครรู้หรอกว่างานของเรามันจะมีค่าขึ้นมาเมื่อไรหรือตอนไหน บางทีคนที่ชอบอ่านผลงานของฉันเขาอาจจะยังไม่เกิดก็ได้นี่ ใครจะไปรู้กัน

ความจริงคิดว่าแพชชั่นมันหายไป เรียกได้ว่าไฟมอดเลยล่ะ ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีสิ่งกระตุ้น ไม่มีผลตอบรับ สิ่งเดียวที่ฉันมีอยู่ตอนนี้นั่นก็คือความอยาก ฉันอยากที่จะเขียน อยากที่จะเรียบเรียงภาษาและถ่ายทอดมันออกมา แต่ยิ่งทำไปมันก็เหมือนกับว่าความอยากนั้นดันกลับกลายมาเป็นโซ่คอยคล้องคอฉันอยู่ และไม่รู้ว่าที่ๆมันโยงเชื่อมไปนั้นจะสวยงามหรือเปล่า เพราะตอนนี้ฉันรู้แค่ว่าระหว่างทางน่ะมันเริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะทนแรงบีบรัดจากมันได้นานแค่ไหน ฉันอดหลับอดนอนไปเพื่ออะไร? เวลาที่ฉันจะต้องใช้ทุ่มไปให้กับความอยากนั้นดูเหมือนว่าจะไม่พอและมันก็กระหายมากขึ้นเรื่อยๆ

มีบางทีที่เผลอคิดออกมาว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่? มันคือตัวตนของเราจริงๆเหรอ? และทำมันไปเพื่ออะไร? เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะตอบตัวเองยังไงดี ฉันรู้แค่ว่าตัวเองอยากทำ และอยากจะเป็นให้ได้ก็เท่านั้นเอง ฉันรู้ดีอีกข้อเลยล่ะว่า มันไม่ใช่ตัวตนของฉันจริงๆ แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็ในเมื่อตอนนี้ฉันทำได้เท่านี้นี่ ไม่รู้จุดประสงค์ของมันด้วยว่าฉันทำไปเพื่ออะไร แต่ระหว่างนั้น ฉันได้มองเห็นความอยากของตัวเองผ่านการเขียนนิยาย มันมีตัวตนของฉันอยู่ในหลายๆบรรทัดเลย จะบอกให้อีกอย่างก็ได้ว่าฉันรู้ดีมาตลอดว่าตัวเองต้องการมากที่สุดนั่นก็คือการได้รับความสนใจจากผู้คน ฉันอยากเป็นที่รู้จักให้มากขึ้น อยากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทักทายและพูดคุยด้วย แต่ฉันไม่มีอะไรที่ตัวเองจะทำได้ดีเลย ร้องเพลงก็ห่วยแตก งานเขียนก็ไปไม่รอด แถมทักษะการพูดยังติดลบอีก และตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองทนเหนื่อย ทนคิดมากไปเพื่อความอยากที่คอยจะทำร้ายฉันอยู่ตลอดเวลาไปทำไม THAT'S ALL

แต่ฉันก็ทิ้งมันไปไม่ได้ ฉันรักการเขียนมากเพราะมันเป็นเหมือนกระจกที่คอยเตือนสติฉันให้รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาในตอนที่ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นเลือนหายไปมากแค่ไหนแล้ว มันเป็นเหมือนเพื่อนคนสำคัญในชีวิตของฉันที่ฉันพร้อมจะทุ่มทั้งความคิดและเวลาลงไปให้โดยที่ไม่แคร์สิ่งอื่นใดรอบตัวอีก ฉันลืมความฟุ้งซ่าน ฉันลืมความคิดมากจากการที่ต้องเข้าสังคม จากการที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอของใครโดยที่เลี่ยงไม่ได้ มันคือสิ่งมีค่าในโลกจินตนาการและความหวังของฉัน

ความอยากที่รัดคอของฉันอยู่ในตอนนี้ ขออย่าได้จากไปอีกเลย แกคือเครื่องมือชิ้นสุดท้ายของฉันแล้วในตอนนี้..

-ตอนที่ฉันกำลังท้อ

ข้างบนนั่นเขียนไว้ตั้งแต่ 2 กรกฎา เอาจริงตอนนี้ก็คิดจะกลับมาเขียนต่ออยู่ แต่นิยายก็แต่งเพิ่มมาได้แค่พารากราฟเดียวเอง ฮาาาาา~ แต่ก็ดีใจนะที่ยังมีใจอยากจะอัพบล็อกนี้อยู่ งุงิ -สารจาก 25 กันยา

bottom of page